. วันนี้ได้นำเกร็ดความรู้ สาระดีๆมาให้เพื่อนๆได้ทราบกัน ว่าจะเป็นอะไร เกี่ยวอะไรกับชีวิตประจำวันของเรา และสำคัญยังไง เกร็ดสาระวันนี้ เราจะพาเพื่อนๆไปทำความรู้จักกับคำว่า TREAD WEAR ซึ่งหลายคนอาจจะเคยเห็นบนยางรถยนต์ของตัวเองแต่ไมทราบว่ามันคือ มีผลยังไง เดี๋ยวเราไปดูกันเลย

. คำว่า TREAD WEAR เพื่อนๆอาจจะเคยเห็นกันมาบ้างแล้วบนยางรถยนต์ที่ตัวเองใช้แต่หลายท่านก็ยังไม่ทราบว่า TREAD WEAR นั้นมีความหมายอย่างไร ทำไมถึงได้มีกำหนดลงบนยาง และจะมีตัวเลขกำกับอยู่ด้านหลัง ในประเทศ สหรัฐอเมริกานั้น ได้มีการจัดตั้งโคลงการ เกี่ยวกับยางรถยนต์ ชื่อว่า UTQG (Uniform Tire Quality Grading) เพื่อเป็นการจัดอันดับ ของคุณภาพของยางรถยนต์ เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค ให้สามารถติดสินใจในการเลือกซื้อยางรถยนต์ได้ถูกต้อง คำว่า TREAD WEAR นั้นจะหมายถึง อันดับเปรียบเทียบทางการสึกหรอ ของยางรถยนต์ ซึ่งค่า TREAD WEAR จะมีผลต่อความความ นิ่ม – แข็ง ของเนื้อยาง เช่น ยางที่มีค่าTREAD WEAR 350 จะมีการสึกหรอ น้อยกว่า ยางที่มีค่า TREAD WEAR 150 แต่ก็ต้องแลกมาด้วย ความเกาะถนนที่แตกต่างกัน โดยมีหลักในจำง่ายคือ

ตัวเลขของ TREAD WEAR น้อย , การสึกหรอ สูง ,อายุการใช้งานสั้น , เกาะถนน

ตัวเลขของ TREAD WEAR มาก , การสึกหรอ น้อย ,อายุการใช้งานยาว , เกาะถนนน้อย

. นอกเหนือจากคำว่า TREAD WEAR แล้วยังมีคำว่า TRACTION นั้นก็คือ ค่าความสามารถในการหยุด บนถนนในแนวตรงโดยผ่านการทดสอบบน ถนนพื้นคอนกรีต และยางมะตอย โดยระดับ ของ Traction จะแบ่งเป็น AA , A , B และ C ตามค่าความสามารถในทดสอบ ส่วนคำว่า TEMPERATURE นั้นหมายถึง การแสดงค่าความต้านทานของยางรถยนต์ต่อความร้อน และ ความสามารถในการกระจายความร้อน โดยการทดสอบนั้นต้องทำการทดสอบในห้องปฏิบัติการการ การวัดระดับนั้นก็จะแบ่งเป็น A , B , C ตามค่าความต้านทานและการกระจายความร้อน ของยางรถยนต์

. หลายท่านคงหายสงสัยแล้ว กับคำว่า TREAD WEAR ที่อยู่บนยางรถยนต์ของเรา ซึ่งมีความสำคัญเลยที่เดียวในการเลือกซื้อ และเลือกใช้ยางรถยนต์ของเรา ได้อย่างถูกต้อง ตรงตามวัตถุประสงค์ของเรา เพื่อนๆสามารถติดตามเกร็ดความรู้ สาระดีๆ กันได้

รู้อย่างนี้แล้วต้องลองมาพิสูจน์กันหน่อย พวกเราทีมงานผู้เชี่ยวชาญ DynoArtPower ยินดีให้คำแนะนำเสมอ แล้วพบกันครับ